ตามใจ Travel

Welcome to My New เที่ยวตามใจฉัน Blog

777777777777
ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง ระนอง เป็นภูเขาที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นมีแต่ต้นหญ้าปกคลุมแนวเขาที่ทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ภูเขาที่เต็ม ไปด้วยหญ้าต่างสีต่างวันเวลาและเนินเขางดงาม ในช่วงฤดูแล้งภูเขาหญ้าจะแปรเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวยิ่งในช่วงในตกใหม่ๆอาจมีโอกาสได้แห่งของสายหมอกฝนลอยไปมาอีกด้วย  จึงนิยมเรียกกันว่า “ภูเขาหญ้าสองสี” การชมภูเขาหญ้านอกจากจะชมได้จากลานกว้างด้านล่างแล้ว ยังสามารถขึ้นไปชมวิวในมุมสูงมีทางราบเชิงเขา มีทางเดินเท้าสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นสู่บนสันเขาเพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบ ซึ่งภูเขาแต่ละลูกไม่สูงมาก สามารถเดินเท้าขึ้นไปตามทางจากลูกนี้เดินต่อไปยังอีกลูกซึ่งเชื่อมต่อกัน

ภูเขาหญ้า

 เป็นภูเขาที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นมีแต่ต้นหญ้าปกคลุมแนวเขาที่ทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ภูเขาที่เต็มไปด้วย หญ้า

ถ้ำพระขยางค์

ถ้ำพระขยางค์อยู่ที่เขาแหลมเนียง อ.กระบุรี จ.ระนอง  ทุกปีในวันตรุษจีน ได้จัดงานประเพณีขึ้นถ้ำพระขยางค์มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2504  เป็นต้นมา  ความสำคัญของสถานที่แห่งนี้ได้มีความเชื่อมโยงกับตำนานเจ้าเมืองคนแรก ผู้ครองเมืองกระ(กระบุรี) นามว่าพระแก้วโกรพ ก่อนนี้นายแก้ว ธนบัตร เป็นนายบ้านชาวนครศรีธรรมราช  ได้จับเต่ากระสีทองสวยงามมากมาตัวหนึ่ง  แล้วได้นำไปมอบให้กับเจ้าเมืองชุมพร เพื่อถวายแก่กษัตริย์ช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา  นายแก้วจึงมีความดีความชอบได้เลื่อนยศเป็นเจ้าเมือง
การจัดงานประเพณีขึ้นถ้ำพระขยางค์ ปีนี้ตรงกับวันที่ 27-29 มกราคม พ.ศ. 2560  งานประเพณีมี 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ตำนานเจ้าเมืองกระ(พระแก้วโกรพ) สำหรับปีนี้มีความแตกต่างจากปีก่อนๆที่เคยทำมาคือ ไม่มีขบวนแห่มาจากทางเทศบาลตำบลน้ำจืดเหมือนทุกครั้ง โดยทางอบต.ลำเลียงเจ้าของพื้นที่ ได้จัดพิธีบวงสรวงใหญ่ขึ้นตรงอนุสาวรีย์พ่อตาหลวงแก้ว ครั้งนี้จึงเป็นการบวงสรวงที่นี่เป็นปีแรก  องค์ประกอบต่อมาคือการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยภูมิทัศน์สวยงามของถ้ำพระขยางค์และเส้นทางธรรมชาติแบบป่าชายเลน  และการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น คือการแสดงมโนราห์
หน่วยงานที่รับผิดชอบมีทั้งองค์การปกครองท้องถิ่น ภาคเอกชนและส่วนราชการต่างๆในอำเภอกระบุรีและจังหวัดระนอง  มีแบ่งงานกันทำ เช่น  บอร์ดตำนานถ้ำพระขยางค์ที่จัดบนลานหน้าอนุสาวรีย์พ่อตาหลวงแก้ว(เป็นนามเรียกพระแก้วโกรพของคนรุ่นหลัง) จัดทำโดย อบจ.ระนอง
ตำนานถ้ำพระขยางค์ ได้มีการจัดทำเป็นหนังสือ เขียนเล่าโดยนายภักดี จันทวงศ์ ธนบัตร(นายขิน ธนบัตร) ผู้เป็นทายาท เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากพระแก้วโกรพได้ครองเมืองกระ พระแก้วโกรพมีภรรยาชื่อนางน้อย ทั้งคู่มีบุตรชาย 2 คนคือนายทองและนายเทพ นายทองถูกส่งไปเรียนที่นครศรีธรรมราช เพื่อว่าเรียนจบมาจะได้สืบทอดตำแหน่งเจ้าเมือง แต่ได้เกิดเรื่องเมื่อนายทองสำเร็จวิชาแล้วกลับบ้าน ได้มาพบกับนางจั่น ภรรยาน้อยของบิดา แล้วเกิดมารักใคร่ชอบพอเป็นชู้กัน  ครั้นบิดาจับได้  นายทองจึงวางแผนปิตุฆาต พระแก้วโกรพทราบเรื่องก็โกรธมาก  สั่งให้จับตัวใส่ขื่อคา เฆี่ยนวันละสามเวลาเมื่อครบเจ็ดวันให้นำไปฆ่าเสีย  แต่เนื่องจากนายทองบุตรชายเรียนวิชาคงกระพันจึงฆ่าไม่ตาย ดาบฟันไม่เข้า  บิดาจึงให้จับตัวไปไว้ในถ้ำบนเขาแหลมเนียง ด้วยการมัดไว้กับขาหยั่งทำด้วยไม้ 3 ท่อนปักโคนทแยง เพื่อให้อดอาหารตาย  จึงเป็นที่มาของ “ถ้ำขาหยั่ง” ต่อมาจึงเพี้ยนเสียงเป็นขยางค์
ข้างฝ่ายบิดาพระแก้วโกรพ ในยามชราได้เรียนวิชาวิปัสสนากรรมฐาน  จนเป็นที่เคารพรักของผู้คน จนผู้คนพากันเรียกว่า “พ่อตาหลวงแก้ว”  วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของท่านตามความศรัทธาของชาวบ้าน คือผู้ปกปักคุ้มครองผู้คนที่สัญจรไปมาบริเวณเขาแหลมเนียงให้ปลอดภัยจากภัยภิบัติต่างๆ จึงได้ปรากฏเป็นศาลที่มีคนแวะเวียนมาสักการะบูชา บนบานศาลกล่าว
การจัดงานบวงสรวง กำหนดขึ้นในวันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.00 น. จัดขึ้นโดยองค์การบริหารส่วนตำบลลำเลียง จากการสัมภาษณ์นายสมศักดิ์ อุ่นหนู รองนายกฯรักษาการแทนนายกอบต.ลำเลียง  และนายคะเณ ทองพรุสยาม  ปลัดอบต.ลำเลียง ทำให้ทราบว่า การจัดงานประเพณีช่วงแรกๆมีผู้สนับสนุนคนสำคัญคือ นายอำเภอชื่น ทองศิริและเจ้าของโรงเลื่อยจักรอรภัณฑ์ คือนายบุญนำ สุวรรณรัตน์  ยุคสมัยนั้นมีกลุ่มชาวจีนมาตั้งถิ่นฐานทำการค้า  ดังนั้นน่าจะเป็นเหตุที่เลือกวันตรุษจีนของทุกปีเป็นวันจัดงาน 
งานบวงสรวงทำตามแบบวิธีพราหมณ์  พราหมณ์ผู้ประกอบพิธีอยู่ในสายจังหวัดพัทลุง-นครศรีธรรมราช ซึ่งมีความชำนาญในการประกอบพิธีพราหมณ์หลวง  เครื่องบวงสรวงประกอบด้วยบายศรีปากชาม 3 คู่  หัวหมู 3 หัว เป็ดต้ม ไก่ต้ม ปูต้ม กุ้งต้ม ปลาช่อนนึ่งไม่ขอดเกล็ด อ้อย เผือกต้ม มันต้ม กล้วยน้ำว้า มะพร้าวอ่อน และผลไม้อื่นๆ ขนมของหวาน  สุรา พวงมาลัยดาวเรือง แจกันดอกไม้สด ธูป เทียนน้ำมนต์ เทียนชัย สายสิญจน์
ส่วนของกิจกรรมสำคัญในงานที่อบต.ลำเลียงเป็นผู้ดูแลคือ กิจกรรมขึ้นถ้ำพระขยางค์ ในวันจัดการทางอบต.ได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการขึ้นถ้ำพระขยางค์ ด้วยการติดไฟส่องสว่างตามทางเดินถ้ำ และจัดเจ้าหน้าที่ไว้เพื่อคอยอำนวยความสะดวก นอกจากนี้ยังให้ลงทะเบียนรับน้ำและของที่ระลึก ขากลับลงมาจะได้รับใบประกาศว่าได้ขึ้นถ้ำไปจนถึงยอดเขาแล้ว ลักษณะของถ้ำพระขยางค์ ปากถ้ำมีขนาดใหญ่  จากนั้นจะมีทางขึ้นไต่ขึ้นสูงไปเรื่อยๆ บริเวณพื้นบางช่วงชื้นแฉะจากน้ำซึมผ่านไหลมาตามหินงอกหินย้อย  บางช่วงทำบันไดแบบมีเครื่องกั้น ที่ผนังถ้ำบางตอนมองเห็นฝูงค้างคาวเกาะอยู่ มีเสียงและกลิ่นขี้ค้างคาว ช่วงไต่ระดับสูงขึ้นไป จะมีโพรงขนาดใหญ่มีแสงส่องสว่างเข้ามาแลเห็นต้นไม้ที่เป็นป่าของเขาแหลมเนียงที่เห็นไกลๆเวลามองขึ้นไปจากข้างล่าง บางตอนที่มองเห็นป่า สามารถจะเดินออกไปเลือกชมวิวมุมสูงได้ แต่ควรดูป้ายคำเตือนให้ดี เพราะบางช่วงมีความชันเกินไปจึงห้ามเข้า
ทางเดินธรรมชาติอีกเส้นทางหนึ่งที่น่าสนใจคือ ทางเดินรอบเขาถ้ำพระขยางค์ ระยะทางประมาณหนึ่งกิโลเมตร ทางเดินก่อสร้างด้วยคอนกรีตมีที่กั้นตลอดเส้นทาง สามารถเดินหรือปั่นจักรยานชมป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ บางช่วงตัดผ่านป่าจากซึ่งเป็นป่าชายเลน บริเวณนี้ถ้าไม่มีคนมากจะมีฝูงลิงออกมาให้เห็นเพราะเป็นแหล่งที่อยู่ของเขา
ลำคลองที่เรามองเห็นเรียกว่า คลองลำเลียง เป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำกระบุรี ต้นน้ำมาจากเทือกเขาตะนาวศรี ปลายน้ำออกสู่ทะเลอันดามัน การคมนาคมทางน้ำจึงเป็นวิถีชีวิตของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโบราณ ปัจจุบันยังคงเห็นเรือหลายลำจอดในคลองลำเลียง ในช่วงเวลาจัดงานแม้จะมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามามากมาย มีร้านค้าเข้ามาจับจองพื้นที่ขายสองฟากถนนที่ไปยังถ้ำ แต่เรายังจะได้ยินเสียงลมพัดผ่านป่าจากดังกังวาน รู้สึกถึงความเคลื่อนไหว  บริเวณใกล้สะพานข้ามลำคลองมีเรือบรรทุกยอดต้นจากเต็มลำเข้ามาเทียบท่า บนฝั่งมีชาวบ้านหลายคนที่มือเป็นระวิงกับการตัดใบอ่อนจากออกจากยอด 
คุณป้ามณฑา สุดกางและลุงสอน จำปูชะนะ เป็นชาวบ้านหมู่ 5  เป็นคนตัดใบจากเป็นอาชีพมานานแล้ว ทั้งสองคนพูดคุยอย่างอารมณ์ดีขณะที่มือก็ตัดใบอ่อนจากยอดจากไปด้วย  รายได้จะคิดตามปริมาณยอดจากที่ตัดเอาใบอ่อนออกมาในแต่ละวัน  ต้นจากมีคุณประโยชน์มากมาย ปลายช่อดอกให้น้ำตาลจาก นำไปหมักจะได้น้ำส้มจาก ผลรับประทานได้  ใบแก่ของจากเย็บเป็นตับจากนำไปมุงหลังคา นำมาห่อขนมเป็นขนมจาก ใบอ่อนเพิ่งแตกยอดทำมวนยาสูบ ปัจจุบันยังมีความต้องการมาก ใครมีที่ดินที่มีต้นจาก จะมีคนไปเหมาสวนตัดยอดแล้วบรรทุกใส่เรือล่องมา ครั้นถามถึงวิถีชีวิตที่ยังคงอยู่กับป่าชายเลน  คุณป้าและคุณลุงนึกถึงปู ปลา ที่หาได้จากป่าชายเลน อาหารธรรมชาติที่กินปลอดภัยและไม่ต้องซื้อ
ได้คุยกันไป พอเอ่ยถึงการจัดงานประเพณีขึ้นถ้ำพระขยางค์ คุณป้ามณฑาได้เล่าให้ฟังถึงบรรยากาศงานปีก่อนๆว่า มีคนมาเที่ยวงานเยอะ ร้านค้าก็มากแต่จะเป็นคนจากที่อื่นมาขายสินค้า สินค้าพื้นเมืองจะมีน้อย  มีคนพม่าเข้ามาเที่ยวงานด้วยเป็นจำนวนมาก คนพม่าชอบทำบุญ รู้สึกแปลกใจบ้างที่ปีนี้ไม่มีขบวนแห่และการประกวดธิดาถ้ำพระขยางค์เหมือนทุกปี สิ่งที่ป้ามณฑาให้ความสนใจมากในงานนี้ที่จะต้องไปดูคือ การแสดงมโนราห์ โดยปีนี้คณะที่มาเล่นคือ คณะแม่แจ่มศรี บุญฤทธิ์
เวทีการแสดงมโนราห์คณะแม่แจ่มศรี ตั้งเป็นเวทีชั่วคราวอยู่บริเวณถ้ำพระ  ถัดไปจากปากทางเข้าถ้ำพระขยางค์ ลักษณะเป็นการแสดงแก้บน ถ้าเป็นการแสดงเต็มรูปแบบจะต้องทำเป็นเวทีมาตรฐาน พระสุวิทย์ พระสงฆ์ของสำนักสงฆ์สุวรรณวัฒนาราม ช่วงวันงานได้มาดูแลส่วนนี้ ได้เล่าถึงความเชื่อของชาวบ้านว่า เคยมีปีที่ไม่มีมโนราห์ หนังตะลุง แล้วปีนั้นได้เกิดเหตุสลดใจ มีอุบัติเหตุเครื่องปั่นไฟช็อตคนตายหลายคน จึงเหมือนเป็นการตอกย้ำว่าไม่มีไม่ได้ ในช่วงการแสดงมโนราห์คณะแม่แจ่มศรี อยู่ในช่วงบ่ายของวันที่มีงานบวงสรวง แม่แจ่มศรีนักแสดงหลัก แม้จะอยู่ในวัยชรามาก แต่ก็ยังสามารถเรียกคนมาเข้าชมได้หนาตา 
หลังการแสดงมโนราห์จบ ได้มีพิธีกรรมโบราณคือ พิธีกรรมการเหยียบเสน โดยมีแม่ลูกได้มาขอให้โนราแม่แจ่มศรีทำพิธีให้  ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า  มโนราห์หรือเรียกว่าโนรา จะมีความเป็นร่างทรงอยู่ด้วย  เสนหมายถึงเนื้องอกเป็นแผ่นที่นูนขึ้นมาจากผิวหนังตามส่วนต่างๆของร่างกาย ไม่เจ็บไม่อันตรายแต่จะดูน่าเกลียด กรณีเด็กผู้ชายคนนี้  เขามีเสนสีแดงที่หน้าอก เรียกว่า เสนทอง (ถ้ามีสีดำจะเรียกว่า เสนดำ) ตามความเชื่อของโนรา เสนเกิดจากการกระทำของผีโอกะแซง หรือผีเจ้าเสน หรือการทำเครื่องหมายของครูหมอโนราหรือตายายโนรา รักษาให้หายได้โดยการเหยียบของโนรา  เครื่องประกอบพิธีถ้ามีครบถ้วนได้แก่ ขันน้ำ หมากพลู ธูปเทียน ดอกไม้ มีดโกน หินลับมีด เงินเหรียญ เครื่องทอง เครื่องเงิน หญ้าคา หญ้าเข็ดหมอน รวงข้าวและเงิน 32 บาท  โนราร่างทรงผู้ประกอบพิธีจะเริ่มด้วยการจุดธูปเทียนชุมนุมเทวดา รำท่าเฆี่ยนพรายหรือย่างสามขุม โนราในร่างทรงรำไปพร้อมกับถือกริช พระขรรค์  เสร็จแล้วเอาหัวแม่เท้าไปแตะตรงเสน เหยียบเบาๆมีการบริกรรมคาถา และเอากริช พระขรรค์ ไปแตะที่เสนด้วย ทำเช่นนี้ 3 ครั้งแล้วนำของในขันหรือถาดไปแตะตัวผู้เป็นเสนจนครบเป็นเสร็จพิธี
ในงานมีอีกการแสดงที่ได้รับความสนใจและเกี่ยวข้องกับตำนานพระขยางค์คือ การแสดงแสงสีเสียงตำนานถ้ำพระขยางค์ ชุดการแสดงจะเล่าย้อนอดีตตั้งแต่ประวัติความรุ่งเรืองของเมืองระนอง มีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีของการเป็นเมืองเก่า  สมัยโบราณมีชาวต่างชาตินำสินค้าลงเรือมาค้าขายกันคึกคัก  จนกระทั่งมาถึงตำนานถ้ำพระขยางค์ที่น่าเศร้าใจ
งานประเพณีขึ้นถ้ำพระขยางค์ ถ้าวัดจากจำนวนผู้มาร่วมงาน ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะมีผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลมา ถึงอย่างนั้นทางอบต.ลำเลียงและหน่วยงานอื่นๆในจังหวัดระนองก็ไม่ได้หยุดนิ่ง ได้มีการหารูปแบบการจัดงานให้น่าสนใจ มีการไปศึกษาดูงานที่อื่น ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่าปีนี้ไม่มีกิจกรรมการล่องเรือตามลำคลอง การประกวดขวัญใจถ้ำพระขยางค์  ด้านการดูแลสถานที่ ได้ทำให้งานปลอดจากแอลกอฮอล์ และมีเป้าหมายสำหรับปีต่อไปที่จะขอความร่วมมือร้านค้าไม่ให้ใช้กล่องโฟม

เกาะหัวใจมรกต

กาะค๊อกคอม เกาะหัวใจมรกต (Cocks Comb) เป็นเกาะที่อยู่ในทะเลอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดระนองเพียงแค่ประมาณ 81.2 กิโลเมตรเท่านั้น เกาะแห่งนี้มีลักษณะเป็นเกาะหินปูน ไม่มีชายหาด มีช่องว่างอยู่กลางเกาะ คล้ายกับปากปล่องภูเขาไฟ มีช่องเล็ก ๆ ให้น้ำทะเลเข้าไปได้ หากมองจากมุมสูงจะเห็นว่าช่องตรงกลางนี้มีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ เมื่อมีน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวใสแจ๋วเข้าไปในนั้น ผนวกกับบริเวณรอบปากปล่องมีต้นไม้สีเขียวขจี ทำให้รูปร่างหัวใจนี้มองเห็นเด่นชัด จนได้รับการขนานนามจากคนไทยว่าเป็น “เกาะหัวใจมรกต” ซึ่งชาวต่างชาติจะรู้จักกันในนาม “Hidden Lagoon”

น้ำตกปุญญบาล

น้ำตกปุญญบาล เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งมีน้ำไหลแรงตลอดปี อยู่บริเวณข้างทางหลวงหมายเลข 4 อยู่ติดกับถนนเพชรเกษม ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 3 กิโลเมตร น้ำตกปุญญบาล เป็นน้ำตกที่มีปริมาณน้ำหลากในช่วงฤดูฝน ต้นน้ำเกิดจากลำห้วยสายเล็กๆ บนป่าสงวนแห่งชาติป่าละอุ่น ป่าราชกรูดก่อให้เกิดเป็นน้ำตกที่สวยงามทั้งหมด 3 ชั้น คือ ชั้นที่ 1 ปุญญบาล ชั้นที่ 2 โตนไม้ไผ่ ชั้นที่ 3 โตนต้นเฟิร์น เส้นทางจากน้ำตกชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 3 มีระยะทางประมาณ 300 เมตร ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อ นักท่องเที่ยวจะได้เดินศึกษาแหล่งต้นน้ำ และระบบนิเวศน์ป่าดิบชื้น

น้ำตกหงาว

น้ำตกหงาว นับได้ว่าเป็นน้ำตกคู่เมืองระนอง เพราะทุกคนที่เดินทางผ่านตัวเมืองระนองจะต้องเห็นสายน้ำสีขาวของน้ำตกหงาวที่ไหลตกลงมาจากหน้าผาสูง อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 417,500 ไร่ หรือ 668 ตารางกิโลเมตร อยู่ในอำเภอเมือง อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง และอำเภอพะโต๊ะ อำเภอทุ่งตะโก อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนทอดตัวยาวระหว่างสองจังหวัด มีสันเขานมสาวเป็นเส้นแบ่งเขตจังหวัดระนองกับจังหวัดชุมพร

เกาะพยาม

 เป็นศูนย์กลางความเจริญของเกาะ มีชุมชนขนาดใหญ่ทั้งบ้านเรือน ร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก เป็นจุดเชื่อมการคมนาคมไปยังอ่าวบนเกาะต่าง ๆ มีทั้งจุดเช่าเรือโดยสาร เรือดำน้ำ มอเตอร์ไซค์ และจักรยาน บริการวินมอเตอร์ไซค์ บริการรถลากบรรทุกของ เหมาะกับกิจกรรมพายเรือคายักชมความสวยงามของสายน้ำ และป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งของวัดเกาะพยาม วัดเพียงแห่งเดียวบนเกาะ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านบนเกาะแห่งนี้
น้ำตกบกกลาย

น้ำตกบกกลาย

นน้ำตกที่ตั้งอยู่ระหว่างแนวรอยต่อจังหวัดชุมพรและจังหวัดระนอง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด และยังเป็นแหล่งดูผีเสื้อที่หายากอีกด้วย น้ำตกบกกราย เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 11 ชั้น ชั้นที่เดินเข้าไปชมได้สะดวก คือชั้นที่ 1-3 อยู่ห่างจากลานจอดรถประมาณ 200 เมตร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีลักษณะเป็นลำธารไหลเทลาดตามลานหินลดหลั่นกันลงมา ไม่สูงมากนัก นักท่องเที่ยวนิยมมาหยุดเล่นที่ชั้นต้นๆ สำหรับนักท่องธรรมชาติที่ต้องการเดินชมน้ำตกทั้ง 11 ชั้น มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 1 กม. เลาะลำธารขึ้นไป ผ่านป่าดิบชื้น  ตามรอยสัตว์ป่า ดูนก และชมผีเสื้อ ควรมีเวลาอย่างน้อย 1 วัน ซึ่งจะมีป้ายสื่อความหมายเป็นระยะๆ นักท่องเที่ยวสนใจสามารถติต่อเจ้าหน้าที่นำทางได้ที่บริเวณสำนักงานฯ ซึ่งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจึงมีข้อจำกัดเวลาในการเข้าชมน้ำตก จะเปิดให้ชมได้ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. สามารถติดต่อขออนุญาตเข้าไปชมได้ที่สำนักงานฯ และรอบบริเวณมีลานจอดรถ ห้องน้ำ และร้านอาหารคอยบริการ ถัดจากน้ำตกบกกรายทางไปคอคอดกระ มีน้ำตกชุมแสง หรือน้ำตกสายรุ้ง อีกหนึ่งน้ำตกที่สวยและสามารถแวะชมได้ก่อน สอบถามข้อมูลได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก โทร. 0 7784 1319

เกาะกำตก

ตั้งอยู่ในเกาะกำตก ทางตอนเหนือของเกาะกำใหญ่ ภายในอุทยานแห่งชาติแหลมสน อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง เป็นโค้งอ่าวครึ่งวงกลมคล้ายกับเขาควาย จึงมีการเรียกกันว่าอ่าวเขาควาย ไม่ใช่เพียงแค่รูปร่างของหาดที่สวยงามแปลกตาเท่านั้นที่สะกดหัวใจผู้มาเยือนให้ตกหลุมรัก แต่บริเวณอ่าวเขาควายยังมีชายหาดที่ขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนละเอียด น้ำทะเลโดยรอบยังเป็นสีฟ้าใสแจ๋ว สามารถลงไปว่ายน้ำเล่น ชมปะการังใต้ท้องทะเลได้อย่างชิล ๆ

พระราชวังรัตนรังสรรค์

เรื่องตำนานพระราชวังรัตนรังสรรค์นั้น เกี่ยวข้องตำนานเมืองระนอง โดยปี พ.ศ. 2433 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายตะวันตก เป็นครั้งแรกที่จะได้เสด็จไปถึงเมืองระนอง พระยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง เจ้าเมืองระนอง) สร้างที่ประทับรับเสด็จที่บนเนินควนอันอยู่กลางเมือง สร้างล้วนด้วยเครื่องก่อประกอบกับไม้แก่นอย่างมั่นคง ประสงค์จะถวายเป็นราชพลีสนองพระเดชพระคุณซึ่งได้ทรงชุบเลี้ยงสกุลวงศ์มา และทรงประทับแรม ณ พระที่นั่งรัตนรังสรรค์ เป็นเวลา 3 ราตรี ระหว่าง 23-25 เมษายน พ.ศ. 2433
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จไปทอดพระเนตรเห็นดำรัสว่า“…ทำงดงามมั่นคงสมควรจะเป็นวัง ยิ่งกว่าจะเป็นพลับพลา…” จึงพระราชทานนามว่า “พระราชวังรัตนรังสรรค์” ให้เป็นเกียรติยศแก่เมืองระนอง และสกุลของพระยารัตนเศรษฐีด้วย แต่ทรงพระราชดำริว่า ที่เมืองระนองนาน ๆ จะเสด็จประพาสครั้งหนึ่ง วังทิ้งไว้เปล่าก็จะชำรุดทรุดโทรมเสีย จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า โดยปกติให้ใช้พระราชวังนั้นเป็นศาลารัฐบาล และทำพิธีสำหรับบ้านเมือง ต่อเมื่อมีการเสด็จประพาสเมื่อใดจึงให้จัดเป็นที่ประทับ

บ่อน้ำร้อนพรร้่ง

ตั้งอยู่ที่  บ้านพรรั้ง ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนองในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว โดยน้ำร้อนมีลักษณะใสสะอาด ไม่มีกลิ่นกำมะถันและก๊าซไข่เน่า มีคราบสีขาวของแคลไซต์ติดอยู่กับหิน พบก๊าซผุดขึ้นมากับน้ำพุร้อนบ้างไม่มากบ่อน้ำร้อนพรรั้ง เกิดจากสายน้ำแร่ ร้อน ที่มีอุณหภูมิสูงประมาณ 35-40 องศาเซลเซียล ไหลซึมออกมาจากผิวดิน และกระจายเป็นแอ่ง มีตาน้ำมากถึง 13 ตาน้ำ อยู่ใกล้ลำธาร บริเวณ บ่อน้ำร้อนได้รับการปรับสภาพภูมิทัศน์ให้สวยงาม สามารถเดินชมพันธุ์ไม้นานาชนิด มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น บ่อน้ำร้อนแบบแช่เท้า แบบแช่ทั้งตัว ที่อาบน้ำกลางแจ้ง ห้องสุขา ศาลาพักผ่อน ที่จอดรถ ร้านอาหาร และบ้านพัก เป็นต้นน้ำพุร้อนบ้านพรรั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาอาบน้ำแร่ แบบใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทั้งแบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือพักค้าง เนื่องจากอยู่ห่างจากตัวจังหวัดระนอง เพียง 10 กิโลเมตร

มุกแท้เมืองระนอง

 ผลงานอันล้ำค่าของหอยจากท้องทะเล
ไข่มุกเป็นอัญมณีชนิด เดียวที่กำเนิดจากสิ่งมีชีวิต และเป็นหนึ่งในรัตนชาติ ที่นำมาเป็นเครื่องประดับมาช้านาน ไข่มุกเกิดจากหอยชนิดหนึ่ง เรียกว่า หอยมุก ซึ่วมีทั้งหอยฝาเดียวและหอยสองฝา แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. ไข่มุกธรรมชาติ ซึ่งเกิดเองตามธรรมชาติ
2. ไข่มุกเลี้ยง
ไข่มุก ธรรมชาติเกิดจากในขณะที่หอยมุกกินอาหาร อาจมีกรวดทรายปะปนเข้าไป  จึงต้องปล่อยเมือกซึ่งมีส่วนประกอบของแคลเซียมคาร์บอเนตออกมาเคลือบสิ่งแปลก ปลอมเพื่อลดการระคายเคือง  จนเป็นไข่มุกที่มีลักษณะแข็งแรง แวววาวมาก ไม่กลม มักบิดเบี้ยว ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เล็ดลอดเข้าไปในตัวหอยว่ามีลักษณะเดิมเป็นเช่นใด  มุกธรรมชาติเป็นของหายาก  และเป็นเครื่องประดับที่แพงที่สุดในโลก ด้วยเหตุนี้เองจึงมีผู้ค้นคิดการเพาะเลี้ยงหอยมุก ผู้ผลิตประสบความสำเร็จคนแรกคือ นายโคคิชิ มิกิโมโตะ ได้นำมาดัดแปลงเอาหอยมุกขัดเป็นเม็ดกลมๆ เข้าไปในฝามุก เกิดเป็นมุกเลี้ยงมีสีสวยงาม หอยมุกที่นำมาเลี้ยงมีทั้งหอยทะเลและหอยน้ำจืด แต่ที่นิยมคือ หอยสองฝาเพราะมีเมือกเยอะ ไข่มุกเลี้ยงเรียกอีกอย่างว่า culture pearl สำหรับประเทศไทยเริ่มมีการเลี้ยงหอยมุกเมื่อ 25 ปีมาแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันมีเพียงบริษัทนาคาไข่มุก ที่สามารถประสบความสำเร็จในการเลี้ยงเป็นบริษัทแรก รู้จักกันในนามของ “ไข่มุกทะเลใต้” (south sea pearl) ทำการเพาะเลี้ยงที่เกาะนาคาน้อย จังหวัดภูเก็ต เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2507 ที่เกาะยาวน้อยร่วมกับญี่ปุ่น มีระยะเวลากว่า 30 ปี ทำจากหอยมุกที่เรียกว่า หอยมุกจาน ผลผลิตมีมากสุดปีละ 12,000 เม็ด ทำรายได้ปีละสิบกว่าล้านบาท ตลาดที่ส่งคือ ญี่ปุ่น มีบางส่วนขายในประเทศไทย ปัจจุบันเหลือน้อยลง

หาดบางเบน

หาดบางเบน ท้องทะเลแห่งเมืองอันดามัน ที่มีหาดทรายสีขาวระยิบระยับราวกับเพชร ทอดยาวเป็นอ่าว น้ำทะเลสีฟ้าครามไล่ระดับสีอ่อนไปหาสีเข้ม มองเห็นเกาะเล็กน้อยใหญ่ เดินเล่นริมหาดทรายพร้อมฟังเสียงคลื่นกระทบกับโขดหิน มีป่าสนที่อุดมสมบูรณ์ทอดยาว ช่วงเย็นรอชมพระอาทิตย์ตกและแสงกระทบกับเงาน้ำทะเล ส่วนในช่วงรุ่งอรุณจะเห็นปูนับร้อยตัวอยู่บนหาดทราย ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่งนัก อีกหนึ่งสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดสำหรับวันหยุดในช่วงหน้าร้อน

Follow My Blog

ท่องเที่ยวไปกะพวกเรามีแต่ความสนุกสร้างสรรค์ความสูขไกับพวกเรา ตามใจ traval

Design a site like this with WordPress.com
Get started